เรตเกม ESRB: E เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกวัยเวอร์ชันรีมาสเตอร์ปรับภาพให้คมชัดสวยขึ้นอีกนิดของตำนานเกมกลิ้งกลมดูดวิญญาณ ที่เคยสร้างปรากฏการณ์เอาไว้เมื่อ 18 ปีก่อน
สำหรับ We Love Katamari ถือเป็นอีกเกมคลาสสิคในตำนานจากสมัยเครื่องเล่น เพลย์สเตชัน 2 ซึ่งในตอนแรกที่มันออกมาใหม่ๆนั้นตัวเกมค่อนข้างเป็นกระแสได้รับความนิยมพอสมควรด้วยสไตล์การเล่นสุดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใครที่ให้ผู้เล่นกลิ้งลูกบอลทรงกลมดูดกลืนวัตถุทุกสิ่งอย่างภายในฉาก จนมีภาคต่อถูกผลิตต่อยอดออกตามมามากมายกระทั่งมาถึงภาคล่าสุด We Love Katamari REROLL+ Royal Reverie ที่เป็นเวอร์ชันรีมาสเตอร์หยิบจับตำนานแห่งยุค PS2 กลับมาปัดฝุ่นใหม่ให้พวกเราเล่นกันอีกครั้ง
สตอรี่เรื่องราวจะดำเนินตามต้นฉบับ เมื่อแผนการสร้างดวงดาวประดับท้องฟ้าในเกมภาคแรก Katamari Damacy ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่ทว่าภารกิจขององค์ชายน้อย The Prince ยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากมีกลุ่มแฟนคลับมนุษย์โลกจำนวนมากเฝ้าหวังรอคอยให้พรของตนสมปรารถนา เราและเหล่าพี่น้องญาติสนิทจึงต้องกลับลงมายังโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อกลิ้งเจ้าลูกทรงกลมคาตามาริสร้างดวงดาวอธิษฐานที่จะช่วยอำนวยพรคำขอของทุกคน แถมในภาคนี้ยังมีการบอกเล่าประวัติความเป็นมาในอดีตขององค์ราชา King of All Cosmos ผู้เป็นพ่อของเราอีกด้วย
กฎกติกาการเล่นนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนแค่เรากลิ้งลูกทรงกลมดูดกลืนสิ่งของภายในฉากขยายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางให้ใหญ่ถึงเกณฑ์ที่ตัวเกมกำหนดได้ก่อนที่เวลาจะหมดก็เป็นอันเคลียร์มิชชั่น วิธีคือต้องเริ่มไล่เก็บจากวัตถุสิ่งของเล็กๆอย่างพวกเหรียญ ดินสอ พอเริ่มใหญ่แล้วค่อยขยับไปจับของชิ้นโตๆอย่างเฟอร์นิเจอร์ สิ่งมีชีวิต หรืออาคารสิ่งปลูกสร้าง ค่อยๆไต่ระดับสร้างเนื้อสร้างตัวไปทีละสเต็ป เป็นอะไรที่ดูธรรมดาซิมเปิลเข้าใจง่าย แต่จะยากตรงการบังคับควบคุมด้วยสองก้านอนาล็อคที่เป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะมันมิใช่แค่ดันไปทางไหนแล้วลูกบอลจะขยับกลิ้งไปทางนั้นทันทีเหมือนตอนบังคับตัวละครเดินปกติ อนาล็อคซ้ายที่ใช้บังคับตำแหน่งการยืนของตัวละครกับอนาล็อคขวาที่ใช้ดันลูกบอลจำเป็นต้องสอดคล้องสัมพันธ์กัน ลูกบอลถึงจะกลิ้งไปตามเส้นทางที่เราปรารถนา ซึ่งมันต้องอาศัยความคุ้นเคยชั่วโมงบินสูงในระดับหนึ่ง
ไม่เปลี่ยนแปลง ถามว่าแล้วมันมีผลอะไรต่อประสบการณ์การเล่นมั้ย? ตอบเลยว่ามีผลแต่มันไม่ได้มากมายนัก เนื่องจากตีมอารมณ์บรรยากาศของเกมมุ่งเน้นความเป็นการ์ตูนสีสันสดใสมากกว่าที่จะมุ่งเน้นความสมจริงสมจัง เราจึงนั่งเล่นไปแบบชิลๆมองฉากหลังพอแบบผ่านๆ บวกกับการเล่นที่ต้องแข่งขันกับเวลาเราจึงมิได้หยุดโฟกัสคอยสังเกตจ้องจับผิดสักเท่าไหร่นั่นเอง
ด้านคอนเทนต์ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันรีมาสเตอร์นี้ ที่เห็นเด่นชัดสุดคงต้องยกให้ Royal Reverie Mode โหมดใหม่ที่ให้เราสวมบทเป็นราชา King of All Cosmos ในสมัยวัยเยาว์ที่ต้องฟันฝ่าการทดสอบฝึกฝนทักษะการกลิ้งลูกบอลเหมือนกัน เพียงแต่เรื่องราวของเขาอาจไม่ได้ยืดยาวมากนักมีแค่ 5 ชาเลนจ์ให้เล่นเท่านั้นเอง ส่วนโหมดใหม่อื่นๆที่สำคัญน้อยลงมาก็จะมี Eternal Mode โหมดสำหรับผู้เล่นมือใหม่สายแคชชวลกลิ้งลูกบอลไปชิลๆได้ทั้งวันแบบไม่มีเวลาจำกัด และสุดท้าย Selfie Mode ที่เปิดโอกาสให้เราถ่ายภาพเก็บช่วงเวลาโมเมนต์ดีๆในระหว่างการเล่นได้ เรียกว่าใส่มาแบบพอเป็นพิธีให้ตัวเกมดูคุ้มค่าขึ้นมาอีกนิดไม่น่าเกลียดจนเกินไป
“ช่วงนี้นับว่าเป็นช่วงเทรนด์แห่งการขายของเก่าของค่าย บันไดนัมโค ที่พยายามหยิบจับตำนานเกมคลาสสิคมากมาย (ที่หลายคนไม่ได้ร้องขอ) นำกลับมาปัดฝุ่นขายใหม่อีกรอบแบบรัวๆ และซีรีส์เกม We Love Katamari นั้นก็ไม่ต่างกัน ถึงแม้มันอาจมีสิ่งใหม่ๆถูกสอดแทรกเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง ภาพกราฟิกมันอาจไม่ได้แย่เลวร้ายอะไรนัก แต่สุดท้ายคำถามสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องความจำเป็นว่าเหล่าแฟนๆพวกเขาต้องการมันจริงหรือเปล่า? เพราะขนาดเรายังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าจะทนเหนื่อยเล่นมันอีกรอบไปทำไม”
เกมเพลย์ | 7 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 7 |
ความคุ้มค่า | 6 |
ภาพรวม | 6.8 |
ข้อดี: ความละเอียดคมชัดสอดรับทีวีสมัยใหม่, ดนตรีประกอบดีงาม, งานภาพสไตล์การ์ตูนสีสันสดใส และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ยังไม่เคยลองข้อเสีย: ตัวเกมไม่ได้ยาวมากนัก, กราฟิกระดับ PS2 ดูเชยตกยุค, คอนเทนต์ใหม่ๆให้มาน้อยนิด และการควบคุมที่ลำบากแอบเข้าถึงยาก
Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง